สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ร่วมกับ สหภาพผู้เล่นอาชีพ (FIFPro) ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนระดับโลกที่มีสมาชิกกว่า 65,000 คน ได้ร่วมกันจัดตั้ง กองทุนดูและนักเตะอาชีพ ที่จะเข้ามาช่วยจัดการปัญหาให้นักเตะที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในด้านต่าง ๆ ทั้งการโดนเอาเปรียบเรื่องของเงินเดือน การโดนเอาเปรียบเรื่องสัญญาว่าจ้าง หรือแม้กระทั่งเข้ามาช่วยในสถานการณ์อย่างการที่สโมสรที่สังกัดในปัจจุบันล้มละลาย และ ไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยให้แก่นักเตะได้ โดยกองทุนนี้จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2021 เป็นต้นไป

ซึ่งทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติเผยว่า มีการวางงบประมาณที่จะเข้ามาดูแลกองทุนนี้สูงถึง 16 ล้านเหรียญ ที่จะแบ่งออกมาใช้จัดสรรให้กองทุนเป็นเวลา 3 ปี โดยวางแผนไว้ว่าในปี 2020 นี้ จะมีงบกองทุนอยู่ที่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2021 จำนวน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ และ ปี 2022 จำนวน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอีก 5 ล้านเหรียญสหรัฐ จะนำเอามาใช้จัดการปัญหาย้อนหลังในช่วงปี 2015-2020 ที่ผ่านมา

ซึ่งตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทางด้าน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) และ สหภาพผู้เล่นอาชีพ (FIFPro) ต่างก็พยายามเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้นักเตะที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ด้วยมาตรการมากมาย แต่ก็ติดปัญหาเรื่องการค้างจ่าย หรือ บางสโมสรถึงขนาดปิดสโมสรเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าชดเชย จึงเป็นเหตุผลให้มีการจัดตั้งกองทุนแห่งนี้ขึ้นมา

ทางด้าน ฟิลลิป ปิอัต ประธานสหภาพผู้เล่นอาชีพ ได้เข้าใจถึงปัญหาที่ร้ายแรงนี้เป็นอย่างดี เขาได้กล่าวว่า “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีสโมสรกว่า 50 แห่ง ใน 20 ประเทศ ที่ปิดตัวลงเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินชดเชย จนทำให้นักเตะอาชีพ และ ครอบครัวของนักเตะจำนวนมากได้รับผลกระทบ จากการขาดความรับผิดชอบนี้ จึงเป็นสาเหตุที่มีการจัดตั้งกองทุนนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยเยียวยานักเตะที่อยู่ในช่วงยากลำบาก”