“โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ผู้จัดการทีม “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ออกมาเปิดใจหลังพบข้อบกพร่องหลายจุดในเกมแรก พร้อมยืดอกรับ VAR ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ หลังประเดิมสนามด้วยการบุกไปพ่ายต่อ การท่าเรือ เอฟซี 1-4 ในศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาลปี 2020 เมื่อวานที่ผ่านมา

“ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับท่าเรือที่ได้สามแต้มในเกมนี้ คือท่าเรือพอเขามีโอกาส ก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นประตูได้ อันนี้มันเป็นคุณภาพของตัวผู้เล่น ซึ่งต้องยอมรับว่าเขาทำได้ดีกว่าเรา”

“แต่เราก็พยายามสู้แล้ว ถ้าเน้นรับมันก็อาจจะแพ้น้อย แต่พอเราเสียสองลูก โดยเฉพาะลูกแรก เสียตั้งแต่ต้นเกม ทำให้แท็คติกวิธีการที่เตรียมมามันเปลี่ยนไป พอเราไปเปิดหน้าสู้ เขามีเกมโต้กลับมาน่ากลัว ก็โอเค กับเกมแรก ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่จะกลับไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาทีม”

เกมนี้มีการเรียกใช้ VAR ถึงสองครั้ง ซึ่งผู้จัดการทีม สวาทแคท เผยมุมมองอีกว่า “ผมว่ามันก็เป็นจุดเปลี่ยนเหมือนกันนะ เพราะถ้าเราได้จุดโทษ และสามารถยิงได้ สกอร์เป็น 3-2 เหลืออีก 10 กว่านาที เกมก็คงจะเปลี่ยน ก็คงจะมันกว่านี้ แต่ผมก็ให้ความเคารพผู้ตัดสิน เขาไปเช็คแล้วว่ามันไม่เป็นจุดโทษ”

“แต่ตอนที่ผมไปอบรม VAR มา เขาบอกว่า ถ้ากรรมการเรียก VAR มันต้องมีเหตุการณ์ที่ผิดพลาดเกิดขึ้น อย่างท่าเรือ เขาได้จากที่เล่นเร็ว กรรมการไม่ให้ แต่ดู VAR แล้วให้ คือทุกครั้งที่มีการเรียก VAR มันต้องมีการผิดพลาด แต่กรรมการเขาคงเช็คละเอียดแล้วล่ะ ซึ่งท้ายสุดแล้ว ผมว่าท่าเรือ เขาก็ควรเป็นผู้ชนะมากกว่า”

และเมื่อถูกถามถึงเกมต่อไปที่ต้องบุกไปเยือน ระยอง เอฟซี โค้ชโจก็กล่าวเสริมว่า “ก็ประมาทไม่ได้ครับ เป็นทีมน้องใหม่จริง แต่ว่าเขาเล่นในบ้านได้ดี ได้แข็งแกร่ง ก็ต้องกลับไปทำการบ้าน ว่าระยองเล่นแบบไหน เราจะไปเล่นกับเขาแบบไหน เพราะ 5 เกมที่มันเป็นเกมเยือน ผมว่ามันก็ยากทุกเกม ก็ประมาทใครไม่ได้เลย”

ทั้งนี้ โปรแกรมฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020 นัดที่ 2 ของทัพ “สวาทแคท” ต้องบุกไปเยือนถิ่น “ม้านิลมังกร” ระยอง เอฟซี ในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 20.00 น. ณ สนามกีฬากลาง จ.ระยอง