แม้จะผ่านมานานถึง 13 ปี แล้วเเต่ทางด้าน เจมี่ คาร์ราเกอร์ ปราการหลังระดับตำนานทีม ลิเวอร์พูล ได้กล่าวยอมรับว่า ยังคงข้องใจในเกมที่พวกเขาพ่ายแพ้ต่อ เอซี มิลาน 1-2 ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2007 และยังรู้สึกเจ็บปวดเสมอ เพราะเชื่อว่า ทีมของเขาเล่นได้ดีกว่า และยังคงไม่เข้าใจกับการจัดทีมของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ ในวันนั้น
แม้ก่อนหน้านั้น 2 ปี ลิเวอร์พูล เพิ่งสามารถเอาชนะ เอซี มิลาน ชนิดโกงความตาย ในนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 แต่ดูเหมือนว่า โชคชะตาอยากให้สองสโมสรล้างตากันอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่ได้โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งในนัดชิงปี 2007 แต่หนนี้ ทีมปีศาจแดงดำ ล้างแค้นได้สำเร็จเมื่อพวกเขาชนะ ทีมหงส์แดง 2-1
โดยนัดดังกล่าว ยังคงเป็นแผลในใจของอดีตปราการหลังทีมชาติ อังกฤษ เสมอมา “ผมไม่เคยย้อนกลับไปดูเกมนั้นอีกเลย มันเป็นเกมที่ทิ่มแทงใจผมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผมรู้สึกว่า วันนั้นพวกเราเล่นได้ดีกว่า”
“มันสุดเจ็บปวดมาก บางทีเรามีเคยโชคมาก ๆ เมื่อปี 2005 และครั้งนี้เป็นทางฝั่ง มิลาน บ้างที่อาจมีโชค ผมไม่สามารถพาตัวเองออกจากความคิดที่ว่า เราควรเป็นผู้ชนะได้เลย”
“มันเป็นแท็กติกที่แปลกของผู้จัดการทีม มันแปลกตรงที่วันนั้น เรามี เคร็ก เบลลามี่ ในซุ้มม้านั่งสำรอง เขาไม่ได้ลงเล่น ทั้งที่ฝั่งคู่ต่อสู้มี มัลดินี่ เป็นกองหลัง ซึ่งอายุมากแล้ว เล่นอยู่ในสนาม เเต่ ราฟา กลับให้ เบลลามี่ นั่งเป็นตัวสำรอง และต่อมาเขาใช้ เคาท์ ไปเล่นเป็นหน้าเป้า ซึ่งนั่นไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา เพราะ เคาท์ เองเหมาะกับการย้ายไปเล่นทางขวามากกว่าเพราะเขาเร็ว”
“อันที่จริงทั้งคู่เร็วมากซึ่งมีถ้าเรามีความเร็วของพวกเขาอยู่ในสนาม พวกเราจะสร้างปัญหาให้ มิลานได้มากแน่นอน ผมจำได้ ตัวสำรองคนสุดท้ายของราฟา คือส่งฟูลแบ็กลงมาแทนฟูลแบ็ก มันบ้าบอมาก”
“ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงคิดอย่างนั้นเอา อาร์เบลัว ลงมาแทนฟินแนน มันค่อนข้างแปลกนิดๆ ”
