จากกรณีคณะกรรมการโอลิมปิคสากล(ไอโอซี)และประเทศญี่ปุ่น หารือร่วมกับ มีมติให้เลื่อนการแข่งขัน โตเกียวเกมส์ 2020 ไปแข่งขันในปี 2021 นั้น ล่าสุด นายฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักมวยสากลทีมชาติไทย ที่แผนเดิมต้องไปร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิคครั้งนี้ ได้เปิดเผยว่า การเลื่อนจากปีนี้ไปเป็นปีหน้า ดีกว่าประกาศงดไปเลย ถึงแม้ว่าจะช้าไปอีกหนึ่งปีก็ยังดี เพราะสถานการณ์ของโควิด-19 อย่างที่เรารู้ ๆ กันอยู่ว่ามันระบาดหนักมาก
“ยังดีที่เลื่อนไปเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น มีความกังวลอยู่บ้างเหมือนกัน ตนได้คุยกับโค้ชมาก่อนหน้านี้แล้ว หากเลื่อนออกไปเป็น 2 ปี ตนคงจะต้องโบกมือลาให้กับทีมชาติไปก่อนอย่างแน่นอน ผมคุยกับโค้ชว่าถ้าเลื่อนออกไปสองปี ผมก็คงจะพอแล้ว ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ครับ แต่ถ้าปีเดียว จะกัดฟันสู้ให้ถึงที่สุด ยอมรับเลยว่าเหนื่อยมากกับอายุขนาดนี้(35ปี) กีฬามวยมันต้องมีการปะทะตลอด เป็นกีฬาบุคคล ไม่ใช่กีฬาประเภททีมอย่างฟุตบอล, วอลเลย์บอล หรืออย่างอื่นที่เล่นกันหลายคน เพราะไม่ต้องวิ่งตลอดทั้งเกม ถ้าเหนื่อยยังพอจะเดินพักได้บ้าง แต่มวยมันไม่ใช่น่ะครับมันต้องเดินตลอด ถ้าหยุดเดินก็โดนเขาต่อย เหนื่อยยังไงก็ต้องฝืนเดิน หยุดไม่ได้”
นักชกทีมชาติไทย ยังได้กล่าวอีกว่า ตนเองรู้สึกตัวเลยอายุที่เพิ่มมากขึ้นเป็นอุปสรรคในการชกมวยมากพอสมควร จากเดิมที่สเตปเท้าเร็ว ออกหมดเร็ว แต่ตอนนี้เริ่มช้าลงตามวัย ด้านสตาฟฟ์โค้ชยังไม่ได้เพิ่มโปรแกรมฝีกซ้อมพิเศษให้แต่อย่างใด
“หลังจากสมาคมฯให้กลับบ้านได้หลังกักตัวที่ศูนย์ฝึกฯ มวกเหล็กครบ 14 วัน ยังไม่มีกำหนดว่าจะให้กลับเข้าไปซ้อมได้เมื่อไร แต่สถานที่ก็คงเป็นที่มวกเหล็กเหมือนเดิม ตอนนี้ก็ได้แต่วิ่งออกกำลังกายและเวตเทรนนิ่งอยู่ที่บ้านครับ”
สำหรับ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี เป็นชาวจ.สระแก้ว ประสบความสำเร็จบนเวทีผ้าใบมาหลายรายการ อาทิ แชมป์ซีเกมส์ปี 2009, 2013, 2017 และ 2019 (ปี 2011 ได้เพียงเหรียญเงิน), เหรียญทองแดงศึกมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2013 ที่กรุงอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน , เหรียญทองมวยสากลฯ ชิงแชมป์เอเชีย 2015 ที่กรุงเทพฯ, เหรียญทองศึกไทยแลนด์อินวิเตชั่นแนชั่นแนลบ็อกซิ่งทัวร์นาเม้นท์ 2017 ที่กรุงเทพฯ และเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยคนล่าสุดที่คว้าโควต้าไปร่วมมหกรรมโอลิมปิค 2020 “โตเกียวเกมส์” ประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จ ก่อนที่สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะลุกลามไปทั่วโลก