“สุนัขจิ้งจอก” อย่างเลสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มฮอตเมื่อคืนที่ผ่านมา ในเกมดวลแข้งปะทะกับ เบรนท์ฟอร์ด คว้าชัยชนะมาแบบเฉือดเฉือน ในศึกการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเอฟเอ คัพฤดูกาลปี 2019-2020 ในรอบที่ 4 ณ สนามกริฟฟิน ปาร์ค ที่เจ้าบ้านอย่างเบรนท์ฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของเลสเตอร์ ซิตี้ แต่ก็ชวดเมื่อเลสเตอร์ ทีมอันดับ 3 ที่ใช้เวลาเพียง 4 นาที ก็สามารถคว้าชัยชนะมาได้ 1-0 ในครึ่งแรก จากการวางบอลของของเดนนิส ปราเอต์ ส่งให้แบ็กขวาอย่างเจมส์ จัสติน
ที่วิ่งมาตบจังหวะส่งให้เคเลชี อิเฮียนาโช ซัดเต้มข้อทำประตูขึ้นนำไปได้เป็นลูกเดียวของครึ่งแรก และครึ่งหลังต่อมาเริ่มดุเดือดมากขึ้น เมื่อเจ้าบ้านอย่างเบรนท์ฟอร์ดเล่นดีขึ้นตามลำดับ มีโอกาสบุกอยู่หลายครั้งและได้โอกาสยิงถึง 4 ครั้ง โดยเอมิเลียโน มาร์คอนเดส เปิดจากฝั่งซ้ายและ ฮาลิล เดอร์วิโซกลู เข้าชาร์จแต่ไม่โดนบอล บอลพุ่งชนโคนเสาหวิดลูกแพ้ตกรอบไปในเกมครั้งนี้ ทำให้เวลาที่เหลือเลสเตอร์ ซิตี้ก็เอาตัวรอดเก็บชัย 1-0 และเก็บแต้มไปได้ 45 คะแนน ตีตั๋วผ่านเข้ารอบ 5 ต่อไป
แม้ในเกมครั้งนี้เจมี ริชาร์ด วาร์ดีจะไม่ได้ลงแข่งเนื่องจากอาการบาดเจ็บแต่ทีมก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้ดี โดยกุนซือเลสเตอร์ ซิตี้อย่างแบรนเดน ร็อดเจอร์ส ออกมาเผยว่าทีมทำสถิติในรอบ 5 ปีไม่แพ้ในฟุตบอลถ้วยเป็นเกมที่ 32 และเตรียมรอลุ้นผลประกบคู่รอบ 5 ในวันจันทร์ที่ 27 มกราคมนี้