วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ กองกลางทีมชาติไนจีเรีย ของทัพ “จิ้งจอกสยาม” ทีมอันดับ 3 แห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถือได้ว่า ตัวเขาเป็นระดับแข้งพรีเมี่ยมประดับวงการลูกหนังอังกฤษก็ว่าได้ หลังจากที่เขาถือครองสถิติ มิดฟิลด์ที่แท็กเกิ้ลชนะมากสุดในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ถึง 91 ครั้ง ทั้งที่ลงสนามเป็นตัวจริงแค่ 23 เกม ให้กับทีมในศึก พรีเมียร์ลีก เพียงเท่านั้น ยังไม่รวมรายการแข่งขันอื่น ๆ ที่ยังไม่นับว่า เขาสามารถชาร์จบอลจากกองหน้าคู่แข่ง ได้อย่างเฉียบขาด
และด้วยฟอร์มการเล่นที่ดุดัน และเด็ดขาดของเขานี้ บวกกับพรสวรรค์ที่ติดตัวแข้งรายนี้อีกหนึ่งอย่างก็คือ เขายังมีสถิติที่เป็นอันดับ 1 ของ พรีเมียร์ลีก ในการเข้าแย่งบอลคู่แข่งเช่นเดียวกัน จากฟอร์มของแข้งผิวสี ฝีเท้าดีราคาพรีเมี่ยมรายนี้ทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ จับเขาต่อสัญญาไปจนถึงปี 2024
และเมื่อช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา เอ็นดิดี้ ได้ตกเป็นข่าวกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมมหาเศรษฐีแห่งเมืองน้ำหอม ที่ยื่นเสนอค่าตัวแข้งพรีเมี่ยม เข้ามาราว 70 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) เพื่อดึงตัวเขาไปยืนประจันหน้ากับเหล่าบรรดากองหน้าลีกเมืองน้ำหอม แต่สุดท้าย ปารีส แซงต์แชร์กแมง ยอดทีมจาก ลีกเอิง ก็ต้องพบกับความผิดหวังหลังจากที่ “จิ้งจอกสยาม” ได้ออกมาประกาศว่า จะไม่มีการขายนักเตะของทีมคนใดในฤดูกาลนี้
แต่หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัส โคโรน่า 2019 ที่คุกคามเรื่องการเงินของเหล่าบรรดาสโมสรน้อยใหญ่ ทำให้ตอนนี้ “จิ้งจอกสยาม” กลับมาทบทวนในการปล่อยตัว เอ็นดิดี้ อีกครั้งหลังจากที่ทีมต้องเจอกับปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกับทีมอื่น และมีแนวโน้มว่า เลสเตอร์ ซิตี้ น่าจะเปิดโต๊ะเจรจากับทาง “เปแอสเช” อีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาคงพิจารณาแล้วว่า คงไม่มีทีมไหนที่จะสามารถหาเม็ดจำนวนเงินมหาศาล เพื่อมาซื้อตัวนักเตะของพวกเขาได้ นอกเสียจากว่าจะเป็นทีมมหาเศรษฐีเมืองน้ำหอม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมเดียวเท่านั้น
